หากว่าเอ่ยถึงโรคสโตรค เชื่อได้เลยว่า หลายๆ คนก็คงจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เนื่องจากว่าโรคนี้เป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังทำให้เกิดภาวการณ์ป่วยที่เรื้อรังได้ด้วยนั่นเอง อย่างไรก็ดี สำหรับใครที่ยังเป็นคนหนุ่มสาวอยู่นั้น อยากป้องกันไม่ให้ตัวเองเป็นผู้ป่วยสโตรก มาดูพร้อมๆ กันดีกว่าว่าจะสามารถป้องกันอย่างไรได้บ้าง
1.ดูแลเรื่องการกินอาหาร
การกินอาหารเป็นปัจจัยสำคัญในลำดับต้นๆ และเป็นสาเหตุอันก่อให้เกิดโรคเส้นเลือดสมอง ซึ่งอาหารที่ไม่ควรรับประทานเลย หรือนานๆ อาจรับประทานได้สักหนึ่งครั้งก็ได้แก่ อาหารทอด หรืออาหารที่มีไขมันอิ่มตัวจำนวนมาก การกินอาหารไม่มีประโยชน์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้กลายเป็นผู้ป่วยสโตรกได้เลยทีเดียว
2.ออกกำลังกายเป็นประจำ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลักในการป้องกันโรคสโตรคก็คือการควบคุมน้ำหนัก และการควบคุมน้ำหนักที่ง่ายที่สุดก็คือการออกกำลังกายเป็นประจำ หากว่าออกกำลังกายเป็นประจำแล้วก็มั่นใจได้เลยว่าจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน และไม่ต้องกลัวโรคหลอดเลือดสมองแต่อย่างใดเลยก็ว่าได้ การออกกำลังกายที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้แก่ การออกกำลังกายแบบแอโรบิค หรือคาร์ดิโอ เช่นการปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ การวิ่ง การเต้นแอโรบิค เป็นต้น
3.ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่
สำหรับสิ่งที่จัดได้ว่าเป็นข้อควรกระทำอย่างยิ่งก็คือ การไม่ดื่มเหล้าหรือว่าสูบบุหรี่ ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากว่าหากเรานั้นดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ ก็จะทำให้เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองตีบเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน และที่สำคัญที่สุดก็คือ อาจจะทำให้มีโรคอื่นๆ พ่วงตามมาได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง เป็นต้น
4.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับเป็นการดูแลสุขภาพร่างกายแบบรวมๆ และเป็นการเยียวยาร่างกายในทุกปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากว่านอนไม่หลับ ร่างกายจะไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ทันเวลา อันนำพาสู่การไปเป็นผู้ป่วยโรคสโตรคได้
5.ลดความเครียดให้ตนเอง
การลดความเครียดจะทำให้ความเสี่ยงโรคนี้น้อยลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นหากใครที่รู้ตัวว่ามีความเครียดไม่สามารถควบคุมได้ แนะนำเลยว่าให้ปรึกษาจิตแพทย์ หรือเล่าให้คนที่ไว้ใจได้ฟัง
และนี่ก็คือสิ่งที่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้มาก่อนเกี่ยวกับการป้องกันตัวเองไม่ให้กลายเป็นผู้ป่วยสโตรก จะดีแค่ไหนหากนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวัน และที่สำคัญมากที่สุดก็คือการทำจิตใจให้แจ่มใสเพื่อลดความเครียดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้