ผู้ที่กำลังประสบกับปัญหาหูไม่ได้ยิน สูญฌสียการได้ยินหรือมีความบกพร่องทางการได้ยินมีจำนวนไม่น้อยทั้งในไทยเองและรอบโลก เพราะสามารถเกิดจากปัจจัยที่ใกล้ตัวได้และสามารถเกิดได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย จึงมีการคิดค้นทางเลือกในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้คนเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น การผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม หรือการใช้เครื่องช่วยฟังเพื่อให้สามารถกลับมาได้ยินและใช้ชีวิตตามปกติได้ ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกไหนก็มีค่าใช้จ่ายที่ตามมาเช่นกัน แต่ในปัจจุบันรัฐได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือ ให้สามารถเบิก เครื่องช่วยฟัง โรงพยาบาล รัฐได้ ช่วยให้สามารถประหยัดเงินทั้งยังทำให้ทุกคนได้รับสิทธิ์ที่เท่าเทียม แล้วสิทธิ์ไหนบ้างที่สามารถเบิก เครื่องช่วยฟัง โรงพยาบาลได้
- สิทธิ์ของข้าราชการ
เบิก เครื่องช่วยฟัง โรงพยาบาลรัฐได้ด้วยการใช้สิทธิ์ของข้าราชการ ข้างละ 13,500 บาท หากเบิกสองข้างจะได้ 27,000 บาท เป็นสวัสดิการสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติโดยเฉพาะ ได้แก่ เป็นข้าราชการ สามารถนำบัตรประชาชนหรือบัตรข้าราชการมาใช้ในการยืนยันสิทธิ์เพื่อขอเบิกเครื่องช่วยฟัง เมื่อมีการตรวจพบและวินิจฉัยแล้วว่ามีการสูญเสียความสามารถในการได้ยินที่ความดังระดับ 40 เดซิเบล ขึ้นไป และมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยฟังโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจะเป็นคนพิจารณาและออกใบสั่งยาว่าจะใช้เครื่องช่วยฟังและจะดำเนินการติดตั้งตามขั้นตอนที่โรงพยาบาลกำหนดเอาไว้ หากโรงพยาบาลไม่มีการจัดจำหน่ายเครื่องช่วยฟัง จะได้รับใบรับรองรายการยาและอวัยวะเทียมที่ไม่มีจำหน่ายในโรงพยาบาลจากแพทย์ ให้นำเอกสารนั้นไปติดต่อขอซื้อเครื่องจากสถานบริการอื่น การเบิกเครื่องช่วยฟังจะอยู่ในหมวดประเภทและอัตราค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค สามารถเบิกได้อีกครั้งเมื่อเครื่องช่วยฟังมีอายุการใช้งานไปแล้วอย่างน้อย 3 ปี
- สิทธิ์ประกันสังคม
สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ประกันสังคมที่เป็นพนักงานที่ทำงานในบริษัทเอกชน ก็สามารถเบิก เครื่องช่วยฟัง โรงพยาบาลรัฐได้เช่นเดียวกัน โดยจะเป็นเครื่องช่วยฟังแบบคล้องหูข้างละ 12,000 บาท และเครื่องช่วยฟังแบบใส่ในช่องหูข้างละ 12,500 บาท จะมีเกณฑ์การพิจารณาที่คล้ายคลึงกับสิทธิ์ข้าราชการคือ เมื่อมีการตรวจพบว่าสูญเสียความสามารถในการได้ยินที่ระดับความดังตั้งแต่ 40 เดซิเบล ขึ้นไป จะได้รับใบสั่งยาจากการวินิจฉัยและพิจารณาจากแพทย์แล้วว่ามีความจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยฟัง หากโรงพยาบาลไม่มีการจัดจำหน่ายเครื่องช่วยฟัง สามารถนำใบรับรองรายการยาและอวัยวะเทียมที่ไม่มีจำหน่ายในโรงพยาบาลจากแพทย์ไปติดต่อขอซื้อจากสถานบริการอื่นๆ ได้ สิทธิ์ในการเบิกเครื่องช่วยฟังนี้จะอยู่ในประกาศคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และจะสามารถเบิกเครื่องช่วยฟังได้อีกครั้งเมื่อมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 3 ปีแล้วเช่นกัน โดยจะต้องมีการใส่รหัสอุปกรณ์ด้วย
- สิทธิ์ผู้พิการบัตรทอง
เครื่องช่วยฟัง โรงพยาบาล รัฐ สามารถใช้สิทธิ์ผู้พิการหรือผู้ป่วยที่มีบัตรสีทองได้ โดยเกณฑ์การพิจารณาจะมีดังนี้ เมื่อมีการตรวจพบแล้วว่ามีความสามารถในการได้ยินอยู่ในระดับเกณฑ์พิการ จะได้รับใบรับรองความพิการจากแพทย์ เราสามารถนำเอกสารนี้ไปขอขึ้นสิทธิ์ได้ อย่างไรก็ตามสิทธิ์ดังกล่าวนั้นยังไม่ครอบคลุมในส่วนของการบำบัดรักษาด้วยเครื่องช่วยฟัง เราจึงต้องเปลี่ยนสิทธิ์ผู้พิการเป็นขึ้นทะเบียนคนพิการ ท. 74 บัตรทองผู้พิการ หลังจากได้รับสิทธิ์แล้วจึงจะขอเบิกเครื่องช่วยฟังได้จากโรงพยาบาลที่มีเครื่องช่วยฟังตามในสิทธิ์บัตรทอง ซึ่งจะต้องเป็นเครื่องที่ถูกขึ้นทะเบียนในระบบ สปสช. เท่านั้น โดยจะมีเครื่องช่วยฟังแบบกล่อง เครื่องช่วยฟังแบบทัดหลังหู และเครื่องช่วยฟังแบบในช่องหู สามารถขอรับเครื่องช่วยฟังได้ทีละข้าง โดยจะต้องมีการเว้นระยะห่างสำหรับการรับเครื่องแต่ละข้างอย่างน้อย 3 เดือน
Related Posts
โรคโควิทมีอาการอย่างไรและควรดูแลตัวเองอย่างไร
ในปัจจุบันนี้เรื่องของโรคติดต่อนั้นต้องบอกเลยว่าเรื่องของโรคติดต่อนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นอย่างมากที่สุดเลยที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสนใจและใส่ใจให้มากๆจะยิ่งดีเพราะว่าในเรื่องของโรคติดต่อที่ร้ายแรงในตอนนี้ก็จะเป็นโรคโควิทนั้นเองเพราะโรคโควิทนั้นติดง่ายมากๆเพียงแค่น้ำลายกระเด็นโดนกันเวลาพูดคุยหรือจามก็สามารถที่จะติดได้แล้ว อันนี้จึงเป็นโรคใหม่ที่มีการระบาดมากขึ้นแล้วก็น่ากลัวด้วยเพราะส่วนมากหากเราเป็นแล้วนั้นก็เหมือนมีอาการไข้หวัดแต่ที่แย่กว่านั้นคือเชื้อสามารถที่จะลงปอดได้ดังนั้นเราจึงควรที่จะต้องใส่ใจให้มากๆด้วยจะเป็นเรื่องที่ดีและแน่นอนว่าในเชื้อโควิทนี้ถ้าหากเรารู้จักที่จะเรียนรู้และป้องกันแล้วจะดีอย่างยิ่งเพราะเราจะได้ไม่ต้องติดโควิทด้วย การที่เราติดโควิทนี้จะทำให้อะไรหลายๆอย่างในชีวิตของเรารวนไปหมดแม้กระทั่งเวลาอันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างที่สุดที่เราเองก็ควรที่จะต้องใส่ใจให้มากๆด้วยจะยิ่งดี และในตอนนี้การติดโควิทนั้นมีการรักษาคือการกินยาต้านโรคเพื่อไม่ให้ลงไปสู่ปอดแต่ต้องกินวันละเก้าเม็ดหรือมื้อละเก้าเม็ดเพื่อยับยั้งไม่ให้เชื้อนั้นแพร่กระจาย แล้วก็ต้องดูอาการตัวเองอีกสิบสี่วันและเมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้วก็จะต้องดูแลอยู่ภายในบ้านอีกสิบสี่วันราวๆเกือบหนึ่งเดือนที่จะต้องพักรักษาตัวอันนี้จึงควรที่จะต้องให้ความสนใจอย่างมากเพราะถ้าเกิดโรคนี้ขึ้นมาอาจจะยากต่อการรักษานั้นเอง สิ่งเหล่านี้เราจึงควรที่จะต้องให้ความสนใจเป็นอย่างที่สุดเพราะหากเรารู้จักที่จะให้ความสนใจแล้วในเรื่องของสุขภาพก็จะดีต่อเราเองอย่างมากเลย การดูแลรักษาตัวเองให้ปราศจากโควิทนั้นก็จึงเป็นสิ่งที่ดีอย่างที่เราเองก็อาจจะหาจากไหนไม่ได้เลยและถ้าหากเรารู้จักที่จะให้ความสำคัญแล้วจะยิ่งเกิดสิ่งที่ดีๆตามมานั้นเอง แล้วเราก็จะได้ไม่ต้องไปเจอกับโรคโควิทที่จะทำให้เรานั้นต้องมาเสียเงินและเสียเวลาอีกด้วย สิ่งนี้จึงเป็นเรื่องที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสำคัญมากๆด้วยจะยิ่งดีเพราะอย่างน้อยการที่เราไม่ติดโควิทเลยนั้นก็จะช่วยทำให้เรายิ่งมีความสุขมากขึ้นด้วย เรื่องการดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับเราเองอย่างที่สุด…
โรคปลายประสาทอักเสบเป็นอย่างไร
ในปัจจุบันนี้เรื่องของโรคนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นสิ่งที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสนใจและคำนึงถึงให้มากที่สุดเพราะว่าในเรื่องของโรคปลายประสาทอักเสบในตอนนี้ก็เป็นโรคที่เกิดกับหลายๆคนได้อีกด้วย เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสนใจและใส่ใจเป็นพิเศษด้วยจะยิ่งดีเพราะอย่างน้อยในเรื่องของโรคปลายประสาทอักเสบเราก็จะได้รักษาได้ทันเวลา โรคนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นโรคเกี่ยวกับทางการแพทย์ที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสนใจและคำนึงถึงให้มากที่สุดเพราะว่าในเรื่องของโรคปลายประสาทอักเสบนั้นจะมีอาการชามือ แขน ขาหรือบางคนก็อาจจะเกิดอาการชาทั้งตัวเลยก็เป็นได้ดังนั้นเราจึงควรที่จะต้องไปหาหมอเพื่อปรึกษาว่าอาการที่เป็นอยู่นั้นมีการรักษาอย่างไร ส่วนมากคนที่เป็นโรคปลายประสาทอักเสบนั้นก็จะมีการออกกำลังกายในส่วนที่ชาหรือที่เรียกว่ากายภาพนั้นเอง เราก็จะทำเฉพาะส่วนที่เราเป็นเพราะว่าจะได้ไม่เกิดอันตรายขึ้นได้ แล้วก็จะมียามาให้รับประทานเพื่อช่วยทำให้อาการชาต่างๆที่เกี่ยวกับโรคปลายประสาทอักเสบนั้นยิ่งดูดีมากขึ้นด้วย อันนี้เราจึงควรที่จะต้องให้ความสนใจและใส่ใจให้มากๆเลยจะเป็นสิ่งที่ดีเพราะอย่างน้อยในเรื่องของโรคปลายประสาทอักเสบนั้นก็จะช่วยทำให้เราได้ยิ่งดูแลตัวเองและหันกลับมาที่จะรักตัวเองได้มากขึ้นด้วย สิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสำคัญมากๆด้วยจะดีที่สุด…
โรคเอชไอวีเกิดจากอะไร
ในปัจจุบันนี้โรคเอชไอวีนั้นเป็นโรคที่มีคนหลายๆคนนั้นติดต่อกันอย่างมากมายเลยเพราะว่าส่วนมากโรคนี้จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ดังนั้นเราจึงควรที่จะต้องใส่ใจและให้ความสำคัญมากๆด้วยในเรื่องของโรคเอชไอวีจะเป็นเรื่องที่ดีอย่างมากเพราะในโรคนี้หากเป็นแล้วไม่รักษานั้นก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้เลย โรคเอชไอวีนั้นจะติดต่อทางเพศสัมพันธ์ติดต่อได้จากการที่มีคู่นอนหลายคนแล้วไม่ป้องกันเพราะว่าร่างกายของแต่ละคนนั้นก็จะมีภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันออกไปแล้วเชื้อที่มีในตัวของแต่ละคนนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจนเลย หากใครที่มีคู่นอนหลายๆคนหรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆก็อาจจะเสี่ยงต่อโรคเอชไอวีได้เพราะโรคนี้จะติดง่ายจากการไม่ใส่ถุงยาอนามัยหรือการไม่ป้องกันเลย จึงทำให้ผิวสัมผัสนั้นสัมผัสได้อย่างง่ายแล้วเชื้อโรคที่อยู่นั้นก็อาจะแพร่ทำให้ติดเป็นโรคเอชไอวีได้ แต่ถ้าหากเรารู้ถึงวิธีป้องกันหรือวิธีการรักษาเมื่อเป็นโรคแล้วนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลเพราะโรคนี้เมื่อเป็นแล้วก็สามารถที่จะหายได้ง่ายอีกเช่นกัน เราจึงควรที่จะต้องให้ความสนใจและใส่ใจให้มากที่สุดเพราะสิ่งที่ดีๆจะได้เกิดขึ้นกับร่างกายของเราเองและอีกหลายๆคนด้วย และเมื่อเรารู้ว่าคู่นอนของเราเป็นเอชไอวีให้รีบไปหาหมอเพื่อรับยามาทานเราจะได้ยาต้านเชื้อไวรัสมาทานแล้วก็จะต้องทานเป็นเวลาเวลาไหนเวลานั้นทุกๆวันเพื่อที่จะได้ทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ดีและมีประสิทธิภาพอย่างมากที่สุด ดังนั้นเราจึงควรที่จะต้องใส่ใจให้มากๆด้วยจะดีต่อตัวเองและดีต่อผู้ที่เป็นเอชไอวีด้วย การที่ทานยาให้ตรงเวลาที่หมอสั่งนั้นจะช่วยทำให้เราได้ยาถึงแล้วก็อาจจะหายได้ไวที่สุด ดังนั้นเรื่องนี้จึงควรที่จะต้องใส่ใจให้มากๆด้วยจะยิ่งดีเพราะในเรื่องของโรคเกี่ยวกับทางการแพทย์นั้นมีมากมายที่รักษาให้หายขาดได้แต่ทั้งนี้เราจะต้องรู้จักที่จะระวังในตนเองให้มากๆด้วยเพื่อที่จะได้ไม่เกิดโรคนี้ขึ้น…